ด้วยสภาวะอากาศที่แปรปรวนในช่วงหน้าฝน บ้านจึงต้องรับมือกับฝนฟ้าคะนอง ลมกรรโชกแรง หรือแม้แต่พายุฤดูร้อน ซึ่งข้อมูลด้านสถิติความเร็วลมจากสถานีอุตุนิยมวิทยา 93 สถานี พบว่าสถิติความเร็วลมเมื่อเกิดพายุฝนในพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ที่ 103 ถึงมากกว่า 118 กม./ชั่วโมง ซึ่งเริ่มสร้างความเสียหายให้กับสิ่งก่อสร้าง โดยเฉพาะส่วนหลังคาเพราะหากมีการยึดกระเบื้องหลังคาไม่ดีแรงลมอาจพัดเอาหลังคาปลิวไปด้วย ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนเท่านั้น ยังอาจเกิดอันตรายกับทรัพย์สินและบุคคลที่อยู่บริเวณนั้นด้วย
สำหรับปัญหาผนังและพื้นรั่วซึมในช่วงหน้าฝนจะคล้ายๆ กับปัญหาหลังคารั่ว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของปัญหาอื่นๆ ตามมาอีก เช่น พื้นหรือผนังเกิดความชื้นจนเชื้อราหรือตะไคร่ขึ้น สีทาบ้านลอกล่อน วัสดุกรุผิวโป่งพองหรือหลุดร่วง ไปจนถึงโครงสร้างบ้านได้รับความเสียหายจากการที่เหล็กเสริมในคอนกรีตเป็นสนิม และถ้าผนังตรงจุดนั้นมีปลั๊กไฟหรือสายไฟ ก็อาจทำให้เกิดไฟรั่วได้เช่นกัน นอกจากนี้หากมีช่องว่างระหว่างวงกบประตู-หน้าต่างกับผนัง ก็ทำให้น้ำผ่านเข้ามาภายในบ้านได้
หลายๆ คนคงทราบดีว่าการที่ฝนตกแต่ละครั้งไม่ได้ตกมาแค่น้ำฝนอย่างเดียว แต่ยังพาเอาฝุ่นดินหรือใบไม้ตกลงมาด้วย ซึ่งบางครั้งเมื่อสิ่งนี้ไปตกลงที่รางน้ำฝนหรือท่อน้ำทิ้ง อาจเป็นสาเหตุทำให้ท่อน้ำทิ้งตันได้ ดังนั้นต้องหมั่นสังเกตให้ดีว่าท่อน้ำทิ้งหรือรางน้ำฝนยังใช้งานได้ดีอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่มีน้ำไหลลงมาเมื่อฝนตกก็แปลว่าตันแน่นอน แนวทางการแก้ไขและป้องกัน หมั่นเช็คและดูแลทำความสะอาด อย่าปล่อยให้มีเศษผง เศษขยะหรือใบ้ไม้เข้าไปอุดตัน เพราะจะเป็นบ่อเกิดของการกั้นทางน้ำและเป็นสาเหตุให้น้ำไหลเข้าบ้านในที่สุด
เนื่องจากน้ำเยอะในหน้าฝน ทำให้หญ้าและวัชพืชต่าง ๆในโตเร็ว ควรหมั่นตัด-ตกแต่งสวน ดึงวัชพืชทิ้ง จัดเรียงต้นไม้ให้เป็นระเบียบ และเพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์เลื้อยคลานต่าง ๆ ด้วย